10 เคล็ดลับ ขับรถออฟโรดตะลุยเที่ยวป่าตั้งแคมป์ให้ปลอดภัย!

10 เคล็ดลับ ขับรถออฟโรดตะลุยเที่ยวป่าตั้งแคมป์ให้ปลอดภัย!

         ช่วงนี้การเข้าแคมป์ กางเต็นท์ตามป่าเขากำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากได้พักผ่อน ได้หลีกหนีความวุ่นวาย ยังได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปกว่านี้ HAMER มีกลเม็ดเคล็ดลับการเตรียมและขับรถออฟโรดตะลุยเที่ยวมาฝาก ต่อให้ถนนหนทางจะลำบากแค่ไหน คุณก็จะถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยหายห่วง

 

 SUB บทความที่ 31
SUB บทความที่ 31

การวางแผนเดินทางและเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์

ใช่แล้ว สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือการวางแผนการเดินทาง จุดหมายปลายทาง ถนนหรือเส้นทางที่คุณต้องขับ จุดพักรถ ระยะเวลาการเดินทาง เพื่อให้คุณสามารถเตรียมรถออฟโรดและอุปกรณ์เสริม เช่น แร็ควางเต็นท์  ยางสำรอง วินช์ (Winch) หรือรอกไฟฟ้า ไฟส่องสว่างเพิ่มเติม อุปกรณ์ชาร์จมือถือ อุปกรณ์ครัว น้ำดื่มสำรอง อาหาร หรือจีพีเอส ให้เหมาะกับทริปนั้น ๆ

ซึ่งหากว่าพื้นที่ในรถออฟโรดของคุณไม่พอ การติดตั้งแร็คหลังคาก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสิ่งของเพิ่มได้เป็นอย่างดีโดยไม่เบียดเบียนพื้นที่ในห้องโดยสารแม้แต่น้อย

เช็กสภาพเครื่องยนต์

ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำในหม้อน้ำ เพราะหากสิ่งใดสิ่งหนึ่งพร่องไปอาจส่งผลต่อการทำงานของรถออฟโรดได้ เครื่องยนต์อาจดับเพราะน้ำในหม้อน้ำแห้งจนไม่อาจระบายความร้อนได้ เบรกไม่อยู่เพราะน้ำมันเบรกหมด เครื่องขัดข้องเพราะน้ำมันเครื่องหมด เพื่อไม่ให้รถดับกลางทาง คุณจึงควรเช็กของเหลวเหล่านี้ได้ดีก่อนเดินทาง

อย่าลืมเติมน้ำสำหรับปัดน้ำฝนด้วย เพราะหากคุณลุยเข้าป่า พื้นที่ที่มีดินโคลนหรือฝุ่นมาก ๆ แล้วไม่สามารถใช้ปัดน้ำฝนช่วยเคลียร์ความสกปรกบนกระจกหน้าออกได้ การขับขี่จะยากขึ้นและเสี่ยงอันตรายขึ้นเยอะเลยทีเดียว

เตรียมยาง

แน่นอนว่าเส้นทางสมบุกสมบันก็ต้องใช้ยางที่มีความดันต่างจากการขับขี่บนถนนลาดยางเนียนเรียบแบบในเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นคุณควรปรับลดแรงดันของยางลง ให้ยางนิ่มขึ้นอีกนิด เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้หนึบมากขึ้น เพราะยิ่งผิวหน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนได้มากเท่าไร น้ำหนักก็จะกระจายได้ทั่วและสมดุลมากกว่า ดูดซัแรงกระทบกระแทกได้มากกว่าเมื่อเจอกับพื้นถนนขรุขระ เกาะถนนได้ดีกว่า และห้องโดยสารก็นั่งสบายกว่า นิ่มนวลมากกว่า

เมื่อกลับมาใช้รถออฟโรดบนถนนปกติในเมือง ก็อย่าลืมเติมลมเพิ่มแรงดันกลับมาที่ค่าปกติเดิมด้วย เพราะหากล้อมีลมยางไม่พอ นิ่มไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและกินน้ำมันเกินควรได้

 

SUB3 บทความ 31
SUB3 บทความ 31

ขับแบบรักษารอบเครื่องยนต์

ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะจะพูดถึงการขับรถออฟโรดที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยเฉพาะเส้นทางชันหรือขรุขระ มีความวิบากสูง การขับรถออฟโรดไม่ควรเหยียบคันเร่งแล้วปล่อยเป็นระยะ แต่ควรเหยียบคันเร่งเบา ๆ ค้างเอาไว้เพื่อรักษาความเร็วรอบเครื่องให้คงที่ เท้าคุณควรแตะคันเร่งค้างไว้ หากต้องการเพิ่มความเร็วก็ให้กดคันเร่งเพิ่ม และเมื่อต้องการเบรกก็ค่อย ๆ วางเท้ากดเบรกเบา ๆ เช่นกัน การขับแบบนี้ด้วยความเร็วต่ำจะช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้ดีกว่า เพราะล้อไม่ฟรีและยังคุมรถได้ง่ายกว่าด้วย

ใช้เกียร์ต่ำ

เหตุผลที่คุณควรขับรถออฟโรดด้วยเกียร์ต่ำเมื่ออยู่บนเส้นทางโหด ๆ ก็เพราะว่าเกียร์ต่ำจะช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนและแรงฉุดได้ดีกว่าเกียร์อื่น ๆ เมื่อรถติดหล่ม อยู่บนทางชัน พื้นเอียงไม่เท่ากัน การใช้เกียร์ต่ำจะช่วยสร้างแรงส่งให้รถพุ่งตัวไปข้างหน้าได้ดีกว่า

แต่หากว่ารถคุณติดหล่มดินหรือโคลนจนขึ้นไม่ไหว ขอแนะนำให้ใช้วินซ์ (Winch) หรือรอกไฟฟ้าเป็นตัวช่วย เกี่ยวตะขอของรอกคล้องกับต้นไม้ให้แน่น จากนั้นกดเปิดให้รอกช่วยดึงรถออฟโรดของคุณขึ้นจากหลุมอีกแรงขณะที่คุณค่อย ๆ เร่งเครื่องด้วยเกียร์ต่ำเพียงดันล้อออกจากหล่ม

SUB4 บทความที่31
SUB4 บทความที่31

การขับทางลาดเอียง

การขับรถออฟโรดบนถนนทีลาดหรือเอียงคือเส้นทางปราดเซียนไม่น้อย เพราะเมื่อขับอยู่บนทางลาดเอียง คุณจะรู้สึกว่ารถเหมือนกำลังเลี้ยวไปด้านที่รถเอียงอยู่ตลอดเวลา ห้ามคุณบังคับพวงมาลัยเพื่อหักหัวรถไปอีกทางเพื่อหวังจะสร้างความสมดุลให้รถวิ่งตรงเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้รถพลิกคว่ำ สิ่งที่ต้องทำก็คือประคองพวงมาลัยตรง ๆ ขับช้า ๆ รักษารอบเครื่องเอาไว้แล้วค่อย ๆ กดคันเร่งเบา ๆ ให้รถเคลื่อนไปด้านหน้าเรื่อย ๆ จนสุดทาง

SUBPOST 5
SUBPOST 5

           เสริมลุครถของคุณให้ดูดีอยู่เสมอด้วยกันชนหน้า HAMER(H2)หากคุณสนใจกันชนหน้า HAMER แต่ไม่รู้ไฟเพิ่มเติมว่าจะติดตั้งที่ไหน? แถบไฟ LED เหล่านี้จะดูดีที่สุดบนแถบด้านหน้า HAMER King-Series นอกจากการป้องกันเพิ่มเติมจากไฟ 3IN1 ที่เป็นเอกลักษรณ์ของกันชน HAMER แล้ว แถบไฟ HAMER เหล่านี้ยังเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ให้กับรถของคุณอีกด้วย การรวมเข้าด้วยกันจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่สุดในแง่ของรูปลักษณ์และการใช้งานสำหรับรถของคุณ

รู้ขนาดของรถออฟโรด

คุณควรรู้ขนาดความกว้าง ยาว และสูงของรถออฟโรดอย่างละเอียดเพราะเมื่อเจอเส้นทางแคบ ๆ เตี้ย ๆ คุณจะได้รู้ว่าคุณจะขับรถออฟโรดคันนี้ผ่านช่องทางนั้นได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงขับเข้าไปจนรถติดแหง็กอยู่ระหว่างทาง นอกจากทำให้เสียเวลาของตัวเองแล้ว อาจกลายเป็นการปิดเส้นทางของรถคัน ๆ อีกด้วย

 

SUB5 บทความที่ 31
SUB5 บทความที่ 31

ลุยโคลน แอ่งน้ำ หรือผืนป่าอย่างระวัง

เมื่อเจอเส้นทางอย่างแอ่งโคลน แอ่งน้ำ หรือแม้แต่พื้นดินที่มีต้นหญ้าหรือต้นไม้ขนาดเล็กขึ้นรกรุงรัง คุณควรชะลอความเร็วแล้วค่อย ๆ ขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ดิน โคลน น้ำ ฝุ่น กิ่งไม้ หรือก้อนหินกระเด็นไปเข้าไปในห้องเครื่องที่อยู่ด้านล่าง อันอาจเป็นต้นเหตุให้เครื่องยนต์ขัดข้อง เครื่องดับ จนไปต่อไม่ได้

หากคุณเดินทางขึ้นเขาเข้าป่าไปตั้งแคมป์บ่อย ๆ การเลือกติดตั้ง ‘กันแคร้ง’ บริเวณใต้ห้องเครื่องก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะอุปกรณ์แต่งรถชิ้นนี้จะช่วยปกป้องไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเล็ดรอดเข้าไปในห้องเครื่องได้ และด้วยความแข็งแรงของเหล็กหนานี้ ต่อให้เป็นเศษก้อนหินหรือกิ่งไม้ก็ไม่อาจย่ำกร่ายเข้าไปสร้างปัญหาได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังต้องระวังเมื่อขับผ่านแอ่งน้ำด้วย หากแอ่งน้ำลึกมากเกินไปก็ควรเลี่ยงไปเส้นทางอื่นแทน เพราะน้ำอาจเข้าไปในเครื่องหรืออาจมีหลุมลึกซ่อนอยู่ใต้แอ่งน้ำก็เป็นได้ อาจทำให้รถตกหลุมกระแทกจนเครื่องยนต์เสียหาย น้ำเข้าเครื่อง เครื่องยนต์รถออฟโรดดับได้

SUB 6 บทความที่ 31
SUB 6 บทความที่ 31

เปลี่ยนไลน์ในการขับขี่ 

หากเส้นทางที่คุณขับรถออฟโรดบุกตะลุยไปค่อนข้างโหดหินกว่าที่คิดเอาไว้ มีความยากจนคุณแทบถอดใจ รถอาจจะติดหล่มหรือติดแหง็กไม่ขับขยับ ขอให้คุณหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ถอยรถออกมาสักเล็กน้อย ก่อนจะหักซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนไลน์การขับขี่ใหม่จากนั้นก็ลองเร่งเครื่องอีกหน และอย่าลืมเช็กให้แน่ใจว่าล้ออย่างน้อย 3 ล้อสัมผัสอยู่บนพื้น เพื่อให้ล้อเหล่านั้นช่วยดันพื้นให้รถเคลื่อนไปข้างหน้าได้

ขอความช่วยเหลือ

หากเส้นทางมันขับยากจริง ๆ คุณควรขอให้เพื่อนร่วมทางช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการให้เพื่อนช่วยลงไปดูว่าคุณจะสามารถขับรถผ่านเส้นทางนั้นได้มั้ย ต้องหักพวงมาลัยไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อไต่พื้นดิน โขดหิน หรือข้ามบ่ออย่างไร เพราะเพื่อนที่อยู่นอกรถจะมองเห็นได้กว้างกว่าและเห็นมุมอับที่คนขับไม่สามารถมองเห็นได้ จึงช่วยให้การขับขี่ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

นอกจากทริกทั้ง 10 นี้ การติดตั้งอุปกรณ์สริมต่าง ๆ อย่าง สเก็นหรือห่วงโอเมก้า อุปกรณ์ลากพ่วง บันไดข้าง หรือแม้แต่ไฟ LED Light Bar เพิ่มกำลังไฟให้สว่างขึ้น ก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายทั้งยามปกติและยามเกิดวิกฤติได้อีกด้วย